ข้อแตกต่างหลักระหว่างพีไอพีและเส้น Fibonacci คือจุดประสงค์ที่แตกต่างกันซึ่งใช้เป็นเครื่องมือในการซื้อขายทางเทคนิค ระดับ Fibonacci retracement ใช้โดยผู้ค้าเพื่อระบุระดับของการสนับสนุนหรือความต้านทาน PHI-elip ถูกออกแบบมาเพื่อระบุถึงแนวโน้มของตลาดและใช้เป็นเครื่องมือในการเทรดข้ามเพื่อตรวจสอบการกลับรายการของตลาด
PHI-elip มีความเกี่ยวข้องกับลำดับ Fibonacci; อย่างแม่นยำมากขึ้นก็คือเกี่ยวข้องกับอัตราส่วนทองลำดับ Fibonacci ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อน PHI หมายถึงอักษรกรีกที่ใช้ในการกำหนดหมายเลข 1 618 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงสุดซึ่งตาม Fibonacci ทุกอย่างกลับคืนมา
วงรี PHI น้อยกว่าที่รู้จักกันดีกว่าตัวบ่งชี้ Fibonacci อื่น ๆ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันซับซ้อนมากจนสามารถวาดได้โดยใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น
รูปวงรี PHI ถูกสร้างขึ้นโดยใช้จุดอ้างอิง 3 จุดซึ่งอาจกำหนดให้เป็น A, B และ C. จุด A คือจุดเริ่มต้นที่เลือกโดยพลการบนแผนภูมิ จุด B คือจุดสูงสุดที่ตามมาซึ่งระบุเมื่อมีค่าความต้านทานจากจุดนั้น จุด C คือจุดสิ้นสุดของเส้นค่าความยาวคลื่นที่ระบุเมื่อราคาเปลี่ยนอีกครั้งไปยังจุด B เมื่อมีการสร้างจุดสามจุดขึ้นบรรทัดสามารถวาดขึ้นได้จากจุด A และจุดตัด B และ C บรรทัดนี้สามารถใช้เป็นเส้นแสดงเส้นแนวโน้ม และความสูงชันของมุมของมันสามารถกำหนดความแรงของแนวโน้ม
พีวีพีเอฟอีรีไม่ใช้เป็นเทรนด์เครื่องมือต่อไป แต่เป็นตัวบ่งชี้การตอบโต้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อระบุการพลิกกลับของตลาด จุดประสงค์ของการวาดวงรีคือการใช้คอมพิวเตอร์ในการกำหนดราคาการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าจากจุด A จุดสิ้นสุดของวงรีถูกใช้เป็นจุดที่ผู้ค้ามองหาตลาดเพื่อย้อนกลับและเปลี่ยนแนวโน้ม สัญญาณเข้าการค้าจะได้รับเมื่อราคาถึงจุดสิ้นสุดของวงรีแล้วข้ามกลับไปที่เส้นที่วาดจากจุด C ซึ่งวิ่งขนานไปกับเส้นแบ่งระหว่างจุด A
ความแตกต่างหลักระหว่าง Retracement กับ Reversal คืออะไร?
เรียนรู้วิธีแยกแยะความแตกต่างระหว่างการย้อนกลับและการกลับรายการและเข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ค้าที่จะทำให้ความแตกต่างนี้
ความแตกต่างหลักระหว่าง Runaway Gap และ Exhaustion Gap คืออะไร?
ค้นพบความแตกต่างหลักระหว่างช่องว่างที่ผู้หลบหนีและความอ่อนเพลียและดูว่าทำไมความแตกต่างของช่องว่างขึ้นอยู่กับการกระทำของราคาที่ตามมา
ความแตกต่างหลักระหว่าง Money Flow & Money Flow Index (MFI) คืออะไร?
หาวิธีแยกความแตกต่างระหว่างการไหลของเงินมาตรฐานและ Money Flow Index ซึ่งเป็นสองวิธีในการแสดงถึงจุดแข็งที่อยู่เบื้องหลังแนวโน้มราคาหลักทรัพย์