บริษัท หรือนิติบุคคลสามารถรักษาข้อได้เปรียบอย่างไม่หยุดนิ่งโดยรักษาปริมาณของปัจจัยการผลิตที่มีอยู่ในปริมาณที่น้อยลงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ต้องการ
หาก บริษัท หรือนิติบุคคลมีจำนวนผลผลิตต่อวันสูงกว่าจะมีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน เพื่อรักษาข้อได้เปรียบที่แน่นอนนี้ บริษัท หรือนิติบุคคลจะต้องสร้างผลตอบแทนมากกว่า บริษัท อื่นหรือกิจการอื่นอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่นถ้า บริษัท หรือนิติบุคคลผลิตอาหาร 6 รายการและเสื้อผ้า 3 ชิ้นต่อวันและ บริษัท หรือนิติบุคคลเปรียบเทียบผลิตอาหารและอาหารสองชิ้นต่อวัน บริษัท หรือนิติบุคคลที่ผลิตหกรายการอาหารและสามชิ้นเสื้อผ้าต่อวันจะมีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอนในการผลิตทั้งอาหารและเสื้อผ้า
เพื่อรักษาข้อได้เปรียบอย่างสิ้นเชิงในด้านการผลิตอาหารและเครื่องแต่งกาย บริษัท หรือนิติบุคคลจะต้องผลิตสินค้ามากกว่าหนึ่งรายการและเสื้อผ้ามากกว่าสองชิ้นต่อวัน
ประโยชน์ที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องเป็นสัญญาณว่า บริษัท หรือนิติบุคคลควรผลิตสินค้าหรือบริการที่มีข้อได้เปรียบอย่างแน่นอน บริษัท หรือนิติบุคคลควรผลิตสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียวหากมีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบในการผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบคือความสามารถของ บริษัท หรือนิติบุคคลในการผลิตสินค้าหรือบริการที่มีต้นทุนต่ำกว่า บริษัท เทียบเคียงหรือนิติบุคคลเปรียบเทียบ การใช้ตัวอย่างข้างต้น บริษัท หรือนิติบุคคลที่ผลิตอาหารและอาหารสองอย่างต่อวันมีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบในการผลิตเสื้อผ้าเนื่องจากสามารถผลิตเสื้อผ้าแบบหนึ่งชิ้นได้โดยการลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการผลิตอาหาร .
บริษัท ควรแยก บริษัท ออกเป็น บริษัท ย่อยหรือไม่?
ค้นหาว่าเหตุใด บริษัท ที่ขายเครดิตทุกรายจึงควรแยกบัญชีลูกหนี้ลงในบัญชีแยกประเภทย่อยของลูกค้ารายย่อยหรือ Subledgers
ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของ บริษัท ฝาเล็ก ๆ ดีกว่า บริษัท ที่เป็น บริษัท ขนาดใหญ่หรือไม่?
เรียนรู้ความแตกต่างระหว่าง บริษัท ขนาดเล็กและ บริษัท ขนาดใหญ่และหาว่า บริษัท ประเภทใดมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ทำไม บริษัท ต่างๆจึงมี บริษัท ย่อยในสาขาอื่นจากแหล่งธุรกิจหลักของ บริษัท ?
เข้าใจว่าเหตุใด บริษัท จึงต้องการเป็นเจ้าของ บริษัท ย่อยในสาขาอื่นจากแหล่งธุรกิจหลัก เรียนรู้ว่าคุณจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง