LIBOR สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจได้อย่างไร?

LIBOR | Money, banking and central banks | Finance & Capital Markets | Khan Academy (พฤศจิกายน 2024)

LIBOR | Money, banking and central banks | Finance & Capital Markets | Khan Academy (พฤศจิกายน 2024)
LIBOR สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจได้อย่างไร?
Anonim
a:

LIBOR หรือ ICE LIBOR เป็นอัตราอ้างอิงที่คำนวณโดย Intercontinental Exchange ธนาคารผู้สนับสนุนสามารถยืมเงินที่ไม่มีหลักประกันจากธนาคารอื่นได้ในอัตรา ICEM LIBOR ในปี 2015 LIBOR ของ ICE คำนวณจากระยะเวลาครบกำหนดเจ็ดสกุลเงินห้าสกุลเงิน ได้แก่ ยูโรปอนด์สเตอริงเงินเยนญี่ปุ่นดอลลาร์สหรัฐและฟรังก์สวิส อัตราดอกเบี้ยถูกส่งทุกวันโดยธนาคารผู้ร่วมให้ข้อมูลที่ 11 ม. Greenwich Meridian Time และจัดลำดับจากน้อยไปมาก ICE จะคำนวณการส่งโดยใช้ค่าเฉลี่ยที่ตัดแต่งซึ่งจะช่วยลด quartiles ด้านบนและด้านล่าง ICE LIBOR สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเพื่อวัดความมั่นคงทางการเงินของระบบธนาคารและความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตรา

LIBOR ระบุว่าธนาคารอ่อนแอหรือแข็งแกร่งหรือไม่ เมื่ออัตราต่ำจะบ่งชี้ว่าธนาคารกำลังทำดีในสภาพตลาดของพวกเขา ในทางกลับกันหาก LIBOR อยู่ในระดับสูงแสดงว่าธนาคารอ่อนแอ

อัตรานี้เป็นเกณฑ์สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินนอกเหนือจากธนาคารที่กู้เงินที่ไม่มีหลักประกันจากธนาคารอื่น อัตราดอกเบี้ยบางส่วนในสหพันธรัฐรัสเซียเชื่อมโยงกับ LIBOR ของ ICE แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีเสถียรภาพอ่อนแอหรือแข็งแรงหรือไม่ โดยทั่วไปหากอัตราดอกเบี้ย LIBOR สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตั๋วเงินคลัง (T-bill) ที่เทียบเคียงได้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีเสถียรภาพค่อนข้างมาก ICE LIBOR สูงกว่าอัตรา T-bill ที่ไม่สูงนักเนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเต็มรูปแบบของ U. S. ทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มเติม เมื่ออัตราดอกเบี้ย LIBOR สูงกว่าอัตรา T-bill มากเกินไปจะส่งสัญญาณว่ามีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในการชำระคืนเงินกู้ลดลง

ตัวอย่างเช่นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ในช่วงวิกฤตการเงินมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันระหว่างอัตรา LIBOR กับ T-bill โดย LIBOR สามเดือน (อิงจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ) ) ที่อัตราร้อยละ 4.82 และอัตราดอกเบี้ยในตลาดรองตั๋วแลกเงินระยะ 3 เดือนที่ร้อยละ 24 วิกฤติที่เกิดขึ้นคุกคามทั้งระบบธนาคารและสร้างความกลัวว่าจะไม่มีการจ่ายเงินให้กู้ยืม วาทกรรมนี้ชี้ให้เห็นถึงระบบเศรษฐกิจและระบบการคลังที่ไม่เสถียรในเวลานั้น