สารบัญ:
บริษัท ที่ประกอบธุรกิจด้านการผลิตผลิตภัณฑ์จากป่ารวมถึงผู้ที่เข้าร่วมในการเก็บเกี่ยวไม้การผลิตไม้และการตัดไม้สามารถให้โอกาสแก่นักลงทุนในการเพิ่มประเภทสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน ในระยะยาว บริษัท อุตสาหกรรมป่าไม้สามารถทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงต่อสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ไม่สัมพันธ์กัน ก่อนที่จะเลือกหุ้นของ บริษัท ป่าหรือกองทุนภาคเอกชนนักลงทุนควรใช้เวลาในการวิเคราะห์เมตริกบางอย่าง หนึ่งในนักลงทุนที่สามารถวัดผลได้เพื่อให้เข้าใจถึงความมั่นคงทางการเงินของ บริษัท รวมถึงผลตอบแทนจากผู้ถือหุ้น (ROE)
การคํานวณอัตราผลตอบแทนตอผูถือหุน
ROE ของ บริษัท หรือภาคธุรกิจเปนตัวชี้วัดความสามารถในการทํากําไรของ บริษัท ที่เกี่ยวของกับผูถือหุนและรายไดสุทธิ ในการคํานวณ ROE นักลงทุนจะมีกําไรสุทธิรวมของ บริษัท หารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นและแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
หมวดป่าไม้ ROE เฉลี่ย
ณ เดือนมกราคม 2558 ROE เฉลี่ยของอุตสาหกรรมป่าไม้อยู่ที่ 21.9% การคำนวณ ROE โดยเฉลี่ยประกอบด้วย ROE ของ บริษัท ป่าไม้ขนาดใหญ่ระยะกลางและขนาดเล็ก ได้แก่ Boise Cascade Company (NYSE: BCC) ที่มี ROE เท่ากับ 16. 45% บริษัท Plum Creek Timber Company, Inc (NYSE: PCL) มี ROE เท่ากับ 12 68%, Rayonier (NYSE: RYN) มี ROE เท่ากับ 18. 48% และ Weyerhaeuser (NYSE: WY) มี ROE เท่ากับ 12. 38%
นอกเหนือจากการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกำไรโดยรวมของ บริษัท หรือภาคธุรกิจแล้วตัวชี้วัด ROE ยังกล่าวถึงประสิทธิภาพโดยรวมของ บริษัท เมื่อ ROE ของ บริษัท หรือภาคธุรกิจสูงนักลงทุนสามารถสมมติว่ามีการสร้างผลกำไรมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนไหลออกเพิ่มเติม อีกทางเลือกหนึ่งคือ ROE ที่ลดลงอาจหมายถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามซึ่งทำให้การลงทุนของผู้ถือหุ้นอยู่ในภาวะเสี่ยง สำหรับผู้ที่สนใจในการเพิ่มภาคป่าไม้ไปยังพอร์ตโฟลิโอเพื่อการกระจายความเสี่ยง ROE เป็นตัววัดที่เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ก่อนที่จะเลือกการลงทุนที่เฉพาะเจาะจง