ดัชนี Haurlan เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการกำหนดเงื่อนไขการซื้อเกินและขายเกิน การพัฒนาในปีพ. ศ. 2560 โดย Peter N. Haurlan นักวิทยาศาสตร์จรวดและนักวิเคราะห์ที่กระตือรือร้นในการทำดัชนีตัวชี้วัดความกว้างของตลาดโดยใช้ส่วนประกอบระยะสั้นระยะกลางและระยะยาว องค์ประกอบแต่ละส่วนได้รับการออกแบบมาเพื่อวัดความเคลื่อนไหวด้านราคาที่แตกต่างกัน
ดัชนีนี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้กับตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) แต่นักวิเคราะห์สามารถใช้ดัชนีหรือดัชนีแลกเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดได้ Haurlan ได้สร้างเครื่องมือนี้ไว้รอบ ๆ เส้นลดความก้าวหน้าที่คุ้นเคยและรวมกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เป็นตัวเลข (EMA) ในช่วงสาม, 20 และ 200 วัน EMA ระยะสั้นใช้เพื่อดูสิวและมีอิทธิพลอย่างมากต่อการซื้อขายแบบวันต่อวัน EMA ระยะกลางกำหนดระดับการสนับสนุนและความต้านทานและถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสามบรรทัดของ Haurlan EMA ระยะยาวไม่ได้สร้างสัญญาณการซื้อขายใด ๆ ใช้เฉพาะเพื่อให้สัญญาณออกมาจากสองเส้นอื่น ๆ เรียบและช่วยให้มีแนวโน้มเป็นหลัก
นักวิเคราะห์และผู้ค้าส่วนใหญ่จะใช้ดัชนี Haurlan ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ โดยเฉพาะแรงสนับสนุนและออสซิลเลเตอร์ความต้านทาน ดัชนี Haurlan ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือการค้าระยะสั้นแม้ว่าจะมีการคำนวณแนวโน้มในระยะยาว แต่เครื่องมือที่ช่วยให้ข้อมูลสนับสนุนระยะยาวไม่เป็นประโยชน์ในการยืนยันสัญญาณ Haurlanเนื่องจาก Haurlan Index ใช้ตัวเลขบรรทัดล่วงหน้า (A / D) และสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการสนับสนุนแนวโน้ม ตัวชี้วัดโมเมนตัมอื่น ๆ ที่พึ่งพาสาย A / D ไม่ได้รับการยืนยันที่ดีกับ Haurlan เนื่องจากการคำนวณที่ใช้จะค่อนข้างซ้ำซ้อน
เหตุใดดัชนีสัมพัทธภาพความสัมพันธ์ (RVI) จึงมีความสำคัญสำหรับผู้ค้าและนักวิเคราะห์?
ค้นพบว่าเหตุใดผู้ค้าและนักวิเคราะห์จึงใช้ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (Relative Vigor Index) หรือ RVI เพื่อวัดความเคลื่อนไหวของวัวและการเคลื่อนไหวของหมีในราคาของสินทรัพย์
เพราะเหตุใด Qstick Indicator จึงมีความสำคัญสำหรับผู้ค้าและนักวิเคราะห์?
เรียนรู้ว่าอะไรคือตัวบ่งชี้ Qstick วิธีการปรากฏบนแผนภูมิและวิธีที่ผู้ค้าและนักวิเคราะห์ใช้เพื่อประเมินความแรงซื้อหรือขาย
ทำไมดัชนี Swing สะสมเป็นประโยชน์สำหรับผู้ค้าและ / หรือนักลงทุน?
หาว่าทำไมเจ. เวลส์ไวล์เดอร์เชื่อว่าดัชนี Swing สะสมอาจถูกนำมาใช้ในตลาดฟิวเจอร์สเพื่อบ่งบอกถึงแนวโน้มในระยะยาว