นักลงทุนพันธบัตรซึ่งโดยเฉพาะผู้ลงทุนในหุ้นกู้ระยะยาวมีความเสี่ยงจากความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับราคาพันธบัตร เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นราคาพันธบัตรจะลดลงและในทางกลับกัน ในสภาพแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้จะสร้างความเสี่ยง สมมติว่าการซื้อพันธบัตร 30 ปีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% สำหรับพันธบัตรอายุ 30 ปีมูลค่า 10,000 เหรียญพันธบัตรนี้จ่ายเงิน 300 เหรียญต่อปีเมื่อครบกำหนด หากในช่วงเวลานี้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% พันธบัตรใหม่ที่ออกจะจ่าย 350 เหรียญต่อปีโดยครบกำหนดโดยสมมติว่ามีการลงทุนจำนวน 10,000 เหรียญ หากผู้ถือหุ้นกู้ 3% ยังคงถือตราสารหนี้ของตนเองจนครบกำหนดก็จะสูญเสียโอกาสในการได้รับดอกเบี้ยสูงขึ้น หรืออาจขายพันธบัตร 3% ในตลาดและซื้อพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า อย่างไรก็ตามการทำเช่นนี้ทำให้นักลงทุนได้รับราคาที่ต่ำกว่าจากการขายหุ้นกู้จำนวน 3% เนื่องจากไม่เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนตั้งแต่หุ้นกู้ใหม่ 3. มีพันธบัตร 5%
ในทางตรงกันข้ามการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น แต่น้อยกว่าผู้ลงทุนโดยตรง ทั้งนี้เนื่องจากตัวอย่างเช่นเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นต้นทุนการยืมเงินของ บริษัท ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อาจส่งผลให้ บริษัท เลื่อนการกู้ยืมซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลง การลดลงของค่าใช้จ่ายนี้อาจชะลอการเติบโตของ บริษัท และส่งผลให้กำไรลดลงและราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ลดลง