กองทุนรวมที่ใช้กันมากที่สุดแห่งใดบ้างที่ให้ความสำคัญกับภาคอาหารและเครื่องดื่ม?

กองทุนรวมที่ใช้กันมากที่สุดแห่งใดบ้างที่ให้ความสำคัญกับภาคอาหารและเครื่องดื่ม?

สารบัญ:

Anonim
a:

กองทุนรวมที่พบมากที่สุดที่มีการเปิดรับกับภาคอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ Fidelity Select Consumer Staples Portfolio และ Vanguard's Consumer Staples Index Fund Admiral Shares

ภาคอาหารและเครื่องดื่มประกอบด้วย บริษัท ที่ประกอบธุรกิจด้านการแปรรูปอาหารและการบรรจุหีบห่อหรือการจำหน่ายอาหารโดยตรงเช่นในกรณีของร้านอาหารหรือทางอ้อมเช่นในกรณีของซัพพลายเออร์ร้านขายของชำ ภาคนี้แบ่งออกเป็น 6 หมวดย่อย ได้แก่ ร้านอาหารร้านค้าปลีกปลีกค้าส่งอาหารผู้ประมวลผลอาหารเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

ความมั่งคั่งของอาหารและเครื่องดื่มโดยทั่วไปจะสะท้อนถึงความสำคัญของเศรษฐกิจโดยรวม ยอดขายอาหารและเครื่องดื่มและอัตรากำไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารมีแนวโน้มลดลงอย่างมากในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจแย่ที่สุดภาคอาหารและเครื่องดื่มเช่นภาคสาธารณูปโภคถือเป็นแกนนำที่น่าเชื่อถือสำหรับนักลงทุน

Fidelity Select Consumer Staples Portfolio

Fidelity Select Consumer Staples Portfolio (FDFAX) เป็นกองทุนเพื่อการแข็งค่าของเงินทุน กองทุนรวมลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท ในประเทศและต่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารให้กับผู้บริโภค กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บริษัท ได้แก่ British American Tobacco SP-ADR, บริษัท Procter and Gamble, Coca-Cola, PepsiCo, Walmart, CVS และ บริษัท Kroger อัตราส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับ FDFAX ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นที่คล้ายคลึงกันที่ 0. 78% และระดับความเสี่ยงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพดัชนีผู้บริโภคของ Vanguard Admiral Shares เป็นกองทุนดัชนีที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานของ MSCI U. S. Investable Market Consumer Staples ดัชนี 25/50 ดัชนีประกอบด้วยกลุ่ม บริษัท ขนาดใหญ่ขนาดเล็กและขนาดกลางที่หลากหลายซึ่งถือว่ามีความอ่อนไหวต่อวัฏจักรเศรษฐกิจน้อย รวมถึง บริษัท ที่ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวเรือนและของใช้ส่วนบุคคลเช่นเดียวกับ บริษัท ที่ผลิตและจำหน่ายอาหาร กองทุนบางส่วนของกองทุนคือ Philip Morris International, Colgate Palmolive, Kraft Foods Group และ Kellogg Company กองทุนมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายที่ต่ำมากถึงร้อยละ 12 และระดับความเสี่ยงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย